นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนต รีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยในการสัมมนาขับเคลื่อนการจัดทำเขตการค้าเสรีเอเชีย- แปซิฟิก (เอฟทีเอ เอเปค) ว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เอฟทีเอ เอเปค ยังขับเคลื่อนได้ไม่เร็วนัก แต่ไทยในฐานะเจ้าภาพเอเปกในปีนี้ ได้ประกาศขับเคลื่อนการจัดทำความเอฟทีเอเอเปคอย่างจริงจัง และจะบรรจุไว้ในแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีการค้าเอเปค พร้อมกับจะร่วมกับสมาชิก เพื่อทำให้การเจรจาสำเร็จเร็วกว่าเป้าหมาย ปี 2583 คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้สิ่งที่ไทยผลักดัน คือว่าควรจะกำหนดสาระอะไรในการหารือบ้าง เช่น ขอบเขตด้านแรงงาน อีคอมเมิร์ซ การค้า การลงทุน สิทธิมนุษยชน โดยถ้า เอฟทีเอ เอเปคสำเร็จ จะเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ มีประชารวมกัน 2,900 ล้านคน คิดเป็น 38% ของประชากรโลก มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศรวมกัน 52 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (1,768 ล้นล้านบาท) คิดเป็น 62% ของจีดีพีโลก และมูลค่าการค้าระหว่างกันจะเพิ่มขึ้น 200-400% ทั้งในด้านการขยายการค้า การลงทุน การลดภาษีนำเข้าระหว่างกันเป็น 0%
“มั่นใจว่าเอฟทีเอเอพี จะได้รับการสนับสนันจากสมาชิกทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ แม้ระหว่างสมาชิกจะมีความขัดแย้งกันอยู่ แต่ทุกเขตเศรษฐกิจ จะมองเห็นประโยชน์ที่จะได้รับร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคง แข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของภูมิภาคในอนาคต”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายจุรินทร์ กล่าวหลังการหารือทวิภาคีกับ รมว.พาณิชย์และพัฒนาทางเศรษฐกิจ ฮ่องกงว่า ได้ขอให้ฮ่องกงสนับสนุนการนำเข้าข้าว ผลไม้พรีเมียมจากไทย เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ผลไม้ ทุเรียน ลำไย มะม่วง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังขอให้สนับสนุนธุรกิจภาพยนตร์ และธุรกิจดิจิทัล คอนเทนต์ของไทย และใช้ไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการใช้ซอฟต์ พาวเวอร์ ผลักดันภาคการผลิตและบริการของไทยไปสู่ตลาดฮ่องกง
“รัฐมนตรีฮ่องกง ยินดีให้ความร่วมมือ และสนับสนุนไทย นอกจากนี้ รัฐมนตรีฮ่องกง แจ้งว่า ต้องการขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) 15 ประเทศ ซึ่งไทยยินดีให้การสนับสนุน โดยฮ่องกงจะสมัครเข้าร่วมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.66”