“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวนและกลับมาอ่อนค่าหลังผลประชุมเฟด แม้จะพลิกแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือนระหว่างสัปดาห์ โดยเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นตามทิศทางสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคในช่วงก่อนการประชุมเฟดท่ามกลางแรงหนุนจากสัญญาณผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิดของทางการจีน ประกอบกับมีกระแสการคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะชะลอขนาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ออกมาต่ำกว่าที่คาด นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาเผชิญแรงขายตามสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย หลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือน พ.ย. อ่อนแอกว่าที่คาด สวนทางเงินดอลลาร์ ที่ทยอยฟื้นตัวขึ้นหลังเฟดยังคงส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในปี 2566 เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง โดยในการประชุม FOMC รอบเดือน ธ.ค. นี้ มุมมองต่อดอกเบี้ยในปีหน้าจากเจ้าหน้าที่เฟดที่สะท้อนผ่าน dot plot ได้ขยับสูงขึ้นไปที่ 5.1% ซึ่งสูงกว่ามุมมองเดิมที่ 4.6% ในเดือน ก.ย. นอกจากนี้เฟดก็ได้มีการปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในปีหน้าขึ้นด้วยเช่นกัน
ในวันศุกร์ที่ 16 ธ.ค. 2565 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.95 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 34.80 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (9 ธ.ค.)
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 13-16 ธ.ค. 2565 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 3,188 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทยถึง 7,845 ล้านบาท ซื้อสุทธิ 8,245 ล้านบาท หักตราสารหนี้ที่หมดอายุ 400 ล้านบาท
สัปดาห์ถัดไป (19-23 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 34.50-35.10 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ค่าเงินหยวนและสกุลเงินเอเชีย และตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน พ.ย.
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.คคำพูดจาก เว็บสล็อตเ. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ข้อมูลรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Index เดือน พ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และจีดีพีไตรมาส 3/65 (final) นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามผลการประชุม BOJ และการประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีนด้วยเช่นกัน